Red-eared Slider (Trachemys scripta elegans)
- Description
- The red-eared slider is perhaps the best known and most recognizable of turtles. It is a medium sized turtle with a dark green oval shell, marked with yellow in younger turtles, green legs with thin yellow stripes and a green head with a red stripe behind the eye
- Life History
- Red-eared sliders are Texas's most common aquatic turtles. These turtles get their name from a broad red stripe behind their eye and their habit of sliding off rocks and logs when startled. Older turtles are often covered with a thick coat of algae. Some red-eared sliders live more than 30 years. Sliders are cold-blooded and spend hours sunning themselves on rocks and logs. If there are not enough rocks or logs for all of them they will often stack themselves one on top of the other! They bury themselves in loose soil or mud during the winter to escape the cold. When population numbers get high, these turtles move across land to other bodies of water in search of food and space. They eat aquatic plants, small fish, and decaying material. Female turtles lay their eggs in holes that they dig in the ground and leave. Young turtles are born having to take care of themselves. Baby red-eared sliders were once very popular as children's pets until it was discovered that some of them carried the disease, salmonella. It is now illegal to sell sliders less than 4 inches in diameter. Most wild animals make very poor pets and are best observed in their native habitat. A turtle's shell is actually made up of its ribs joined together and covered with a thin layer of skin. Each of the ribs is made of jigsaw-like sections called scutes, which grow at the edges. This allows the turtle to increase in size without outgrowing its shell. Mature males have long toenails on their front feet that they use when courting females. The males swim backwards in front of females and fan water over their faces. Sliders have poor hearing but are very sensitive to vibrations. This makes it hard to sneak up on them. Their name, slider, comes from the fact that they are quick to slide off of rocks, logs or the banks if danger threatens.
- Habitat
- Red-eared sliders are found in most permanent slow-moving water sources with mud bottoms in the eastern three quarters of the state.
- Distribution
- They range from Indiana to New Mexico down through Texas to the Gulf of Mexico. They are widely distributed throughout Texas except for the far western region.
- Other
- In many Native American creation stories, the land on which they lived was the back of a huge turtle floating in a vast sea. Turtles were considered sacred and never killed. The thirteen pieces on some turtle's shells are thought to represent the thirteen moons of the year.
การเลี้ยงเต่าญี่ปุ่น
โดย จอนฟอน จอมป้วนเปี้ยน
ช่วงนี้บ้านเมืองง่อนแง่นโงนเงน ถึงตอนนี้จะเลือกตั้งเสร็จแล้ว แต่บรรยากาศก็ยังมาคุ มาคุ ดูทะแม่งๆอยู่ดี นักการเมืองร้อนรนวิ่งกันขาขวิด เราประชาชนตาดำๆไม่ต้องร้อนรน มานั่งดูเต่าน้ำแสนน่ารักเล่นๆให้เย็นใจดีฝ่า ฮ่าๆ เอิ๊ก ประกอบกับช่วงนี้มีคนตั้งกระทู้ถามกันเยอะแยะมากมายเลยครับ แสดงให้เห็นถึงเต่าที่ความนิยมอันดับหนึ่ง ครองใจผู้เลี้ยงได้อย่างอำตะนิรันดร์กาลจริงๆครับ...
เต่าญี่ปุ่นครับ
เต่าญี่ปุ่นมีชื่อสามัญภาษาฝรั่งว่า Red-eared sliders (Trachemys scripta elegans) มีถิ่นกำเนิดไล่ขึ้นไปตั้งแต่ใต้สุดของโอกินาว่าขึ้นไปจนถึง......จว๊าก ชื่อพาเคลิ้ม ความจริงแล้วเต่าญี่ปุ่นไม่ได้มาจากญี่ปุ่นและก็ไม่ได้มีถิ่นกำเนิดที่ญี่ปุ่นนะครับ แต่มีถิ่นกำเนิดในทวีปอเมริกา ในแหล่งน้ำของรัฐมิสซิสซิปปี้ แล้วก็ไล่ตั้งแต่แถวๆ อิลินอยส์ ไปจนถึงอ่าวเม็กซิโกเลยครับ
แล้วทามมายมันชื่อเต่าญี่ปุ่น อันนี้เซียนท่านบอกไว้ว่า ก็เพราะว่าถิ่นกำเนิดนั้นอยู่ทวีปอเมริกาและนำเข้าไปเป็นสัตว์เลี้ยงที่ประเทศญี่ปุ่น แล้วคนไทยก็ไปเอานำเข้ามาจากญี่ปุ่นอีกที ก็เลยตั้งชื่อทางการค้าง่ายๆว่าเต่าญี่ปุ่นนั่นเองครับ
เต่าญี่ปุ่นเป็นเต่าน้ำ(เต่าชายน้ำ)มีเท้าเป็นพังผืดว่ายน้ำได้ดี ตอนเด็กๆกระดองค่อนข้างกลม สีเขียวมีลวดลาย คล้ายลายไม้ ผิวหนังก็เป็นสีเขียวมีลวดลายเช่นกัน บริเวณหางตาทั้งสองข้างมีแถบสีแดงอันเป็นที่มาของชื่อเต่าหูแดงหรือเต่าแก้มแดงนั่นเองครับ พอโตขึ้นสีเขียวสดบนกระดองจะจางลงและกลายเป็นสีน้ำตาลอาจยังมีลายเขียวๆหลงเหลืออยู่บ้าง ขนาดความยาวตัวเมียประมาณ 1 ฟุต ตัวผู้ขนาดเล็กกว่าเล็กน้อย ถึงวัยเจริญพันธุ์เมื่ออายุ 2 ปีขึ้นไป โตเต็มที่เมื่อมีอายุ 7 ปี อายุขัยโดยเฉลี่ย 30 ปี
เต่าญี่ปุ่นครับ
เต่าญี่ปุ่นมีชื่อสามัญภาษาฝรั่งว่า Red-eared sliders (Trachemys scripta elegans) มีถิ่นกำเนิดไล่ขึ้นไปตั้งแต่ใต้สุดของโอกินาว่าขึ้นไปจนถึง......จว๊าก ชื่อพาเคลิ้ม ความจริงแล้วเต่าญี่ปุ่นไม่ได้มาจากญี่ปุ่นและก็ไม่ได้มีถิ่นกำเนิดที่ญี่ปุ่นนะครับ แต่มีถิ่นกำเนิดในทวีปอเมริกา ในแหล่งน้ำของรัฐมิสซิสซิปปี้ แล้วก็ไล่ตั้งแต่แถวๆ อิลินอยส์ ไปจนถึงอ่าวเม็กซิโกเลยครับ
แล้วทามมายมันชื่อเต่าญี่ปุ่น อันนี้เซียนท่านบอกไว้ว่า ก็เพราะว่าถิ่นกำเนิดนั้นอยู่ทวีปอเมริกาและนำเข้าไปเป็นสัตว์เลี้ยงที่ประเทศญี่ปุ่น แล้วคนไทยก็ไปเอานำเข้ามาจากญี่ปุ่นอีกที ก็เลยตั้งชื่อทางการค้าง่ายๆว่าเต่าญี่ปุ่นนั่นเองครับ
เต่าญี่ปุ่นเป็นเต่าน้ำ(เต่าชายน้ำ)มีเท้าเป็นพังผืดว่ายน้ำได้ดี ตอนเด็กๆกระดองค่อนข้างกลม สีเขียวมีลวดลาย คล้ายลายไม้ ผิวหนังก็เป็นสีเขียวมีลวดลายเช่นกัน บริเวณหางตาทั้งสองข้างมีแถบสีแดงอันเป็นที่มาของชื่อเต่าหูแดงหรือเต่าแก้มแดงนั่นเองครับ พอโตขึ้นสีเขียวสดบนกระดองจะจางลงและกลายเป็นสีน้ำตาลอาจยังมีลายเขียวๆหลงเหลืออยู่บ้าง ขนาดความยาวตัวเมียประมาณ 1 ฟุต ตัวผู้ขนาดเล็กกว่าเล็กน้อย ถึงวัยเจริญพันธุ์เมื่ออายุ 2 ปีขึ้นไป โตเต็มที่เมื่อมีอายุ 7 ปี อายุขัยโดยเฉลี่ย 30 ปี
เต่าญี่ปุ่นเป็นเต่าที่กินทั้งพืชและสัตว์เป็นอาหาร ในขณะที่ยังเป็นเด็กจะต้องการเนื้อสัตว์เป็นอาหารมากกว่าพืชในอัตราส่วนเนื้อสัตว์ร้อยละ70 พืชร้อยละ30 แต่เมื่อโตขึ้นเต่าญี่ปุ่นจะกลับเนื้อกลับตัว บริโภคพืชเป็นส่วนใหญ่ ในอัตราส่วน พืชร้อยละ90 เนื้อสัตว์ร้อยละ10 (Wilke,1979)
เต่าญี่ปุ่นที่เราเลี้ยงส่วนมากจะซื้อมาตั้งแต่เต่ายังเล็ก ก็ควรให้อาหารที่เป็นเนื้อสัตว์ อาทิเช่น กุ้งฝอย เนือปลา หนอนนก หนอนแดง ไส้เดือน ฯลฯ รวมถึงอาหารปลา อาหารเต่าสำเร็จรูปต่างๆด้วยครับ ไม่ควรให้อย่างเดียวชนิดเดียวตลอด ควรให้หลายอย่างสลับสับเปลี่ยนคละเคล้ากันไป พวกพืชก็ให้ไดหลากหลายครับ ผักบุ้ง ผักกาด คะน้า กวางตุ้ง ตำลึง ใบผักตบชวา ฯลฯ
โดยนิสัยเต่าญี่ปุ่นจะกินในน้ำเป็นหลัก (แต่ก็สามารถงับอาหารบนบกได้) ดังนั้นก็ใส่อาหารลงไปในน้ำเลยครับเดี๋ยวเค้าจัดการกันเอง
เนื่องจากเต่าญี่ปุ่นเป็นเต่าน้ำ (เต่าชายน้ำ) อาศัยอยู่ในน้ำ กินอยู่ขับถ่ายก็กระทำในน้ำ ดังนั้นจึงควรรักษาความสะอาดน้ำในที่เลี้ยงอย่างสม่ำเสมอ หรือถ้าติดระบบกรองน้ำแบบเลี้ยงปลาสวยงามไปเลยก็ดีเลยครับ ภาชนะที่ใช้เลี้ยงพื้นฐานสุดๆก็คงจะเป็นตู้ปลาครับ เลือกขนาดตู้ปลาก็ขอให้ใหญ่ๆหน่อย เพราะเต่าตัวนี้อัตราการเจริญเติบโตค่อนข้างเร็วครับ แต่จะว่าไปตู้ปลาก็ไม่ใช่ภาชนะที่เหมาะสมสำหรับเลี้ยงเต่าญี่ปุ่นนะครับ เต่าญี่ปุ่นไม่ต้องการน้ำที่ลึกมาก เลี้ยงในอ่างหรือบ่อกว้างๆใหญ่ๆดีกว่าครับ เพราะเต่าญี่ปุ่โตเต็มที่เป็นฟุตนะครับ
เต่าญี่ปุ่นที่เราเลี้ยงส่วนมากจะซื้อมาตั้งแต่เต่ายังเล็ก ก็ควรให้อาหารที่เป็นเนื้อสัตว์ อาทิเช่น กุ้งฝอย เนือปลา หนอนนก หนอนแดง ไส้เดือน ฯลฯ รวมถึงอาหารปลา อาหารเต่าสำเร็จรูปต่างๆด้วยครับ ไม่ควรให้อย่างเดียวชนิดเดียวตลอด ควรให้หลายอย่างสลับสับเปลี่ยนคละเคล้ากันไป พวกพืชก็ให้ไดหลากหลายครับ ผักบุ้ง ผักกาด คะน้า กวางตุ้ง ตำลึง ใบผักตบชวา ฯลฯ
โดยนิสัยเต่าญี่ปุ่นจะกินในน้ำเป็นหลัก (แต่ก็สามารถงับอาหารบนบกได้) ดังนั้นก็ใส่อาหารลงไปในน้ำเลยครับเดี๋ยวเค้าจัดการกันเอง
เนื่องจากเต่าญี่ปุ่นเป็นเต่าน้ำ (เต่าชายน้ำ) อาศัยอยู่ในน้ำ กินอยู่ขับถ่ายก็กระทำในน้ำ ดังนั้นจึงควรรักษาความสะอาดน้ำในที่เลี้ยงอย่างสม่ำเสมอ หรือถ้าติดระบบกรองน้ำแบบเลี้ยงปลาสวยงามไปเลยก็ดีเลยครับ ภาชนะที่ใช้เลี้ยงพื้นฐานสุดๆก็คงจะเป็นตู้ปลาครับ เลือกขนาดตู้ปลาก็ขอให้ใหญ่ๆหน่อย เพราะเต่าตัวนี้อัตราการเจริญเติบโตค่อนข้างเร็วครับ แต่จะว่าไปตู้ปลาก็ไม่ใช่ภาชนะที่เหมาะสมสำหรับเลี้ยงเต่าญี่ปุ่นนะครับ เต่าญี่ปุ่นไม่ต้องการน้ำที่ลึกมาก เลี้ยงในอ่างหรือบ่อกว้างๆใหญ่ๆดีกว่าครับ เพราะเต่าญี่ปุ่โตเต็มที่เป็นฟุตนะครับ
เนื่องจากเต่าญี่ปุ่นเป็นสัตว์เลือดเย็น แสงแดดจากดวงอาทิตย์จึงจำเป็นต่อเต่ามากๆๆๆๆๆ สถานที่เลี้ยงก็ควรเป็นที่ๆรับแสงธรรมชาติได้อย่างน้อย 1-2ชั่วโมง โดยมีร่มเงาไว้ให้หลบร้อนด้วย เต่าญี่ปุ่นชอบขึ้นมาอาบแดดบนบกเอามากๆ ดังนั้นจึงควรจัดให้มีตลิ่ง เชิง ชาน ดิน กรวด ทราย หรืออะไรก็ตามที่เป็นบกให้น้องเต่าขึ้นมาอาบแดดได้ แสงแดดจะช่วยเพิ่มอุณหภูมิให้ร่างกาย ช่วยย่อยอาหาร การเจริญเติบโต ช่วยดึงสารอาหารไปใช้ รวมถึงฆ่าเชื้อโรค เชื้อราที่ติดอยู่ตามกระดองและผิวหนังให้หมดไป
ถ้าไม่สะดวกพาเต่ามาอาบแดด ก็มีหลอดยูวีสำหรับสัตว์เลื้อยคลานต่างๆ ซื้อมาใช้ก็พอถูไถไปได้ แต่ยังไงก็สู้แสงแดดธรรมชาติไม่ได้หรอกครับ ฮ่าๆๆ
ในขณะยังเด็กเต่าญี่ปุ่นจะยังไม่สามารถแยกเพศได้ชัดเจน จะเริ่มดูออกเมื่อเต่ามีขนาด 3-4 นิ้วขึ้นไป โดยตัวเมียจะตัวใหญ่และโตเร็วกว่าตัวผู้อย่างเห็นได้ชัด ตัวผู้จะหางยาวกว่า เล็บยาวแหลม ท้องกระดองเว้า ตัวเมียเล็บสั้น หางสั้น ท้องกระดองแบนราบ
เต่าญี่ปุ่นมีวัยเจริญพันธุ์เมื่ออายุ 2 ปีขึ้นไป เต่าจะเริ่มผสมพันธุ์วางไข่ 2 ช่วง คือ เดือนมีนาคมและมิถุนายน และจะวางไข่ช่วงเดือนมิถุนายนถึงสิงหาคม การผสมพันธุ์จะดำเนินการกันในน้ำนะครับ โดยตัวผู้จะว่ายน้ำตามตัวเมีย และเมื่อตัวเมียพร้อม ตัวเมียจะหยุดและทิ้งตัวลงใต้น้ำ ตัวผู้จะตามไปใช้เล็บยาวๆเกาะที่กระดองตัวเมีย ส่วนเว้าของกระดองตัวผู้ ก็จะประกบกับส่วนโค้งของกระดองตัวเมียพอดี จากนั้นตัวผู้ก็จะ... จว๊าก ไม่ต้องเล่ามากก็ได้ตอนนี้..
จำนวนไข่ของเต่าญี่ปุ่นที่มีการบันทึกเอาไว้ก็ประมาณ 4-23 ฟอง โดยจะวางไข่บนบก แม่เต่าจะขุดหลุมวางไข่บนพื้นดิน ใช้เวลาประมาณ 60-75 วันเพื่อฟักเป็นตัว ใครจะเพาะพันธุ์สถานที่ก็ควรมีทั้งน้ำทั้งบกทั้งพื้นดินนะครับ
เต่าญี่ปุ่นโตมาตัวก็ใหญ่ กินเยอะขี้ก็เยอะ สีก็เปลี่ยนไปไม่สวยน่ารักเหมือนเก่า เหม็นก็เหม็น เลี้ยงไปเลี้ยงมาเมื่อไหร่คิดได้ดังนี้แล้วก็อย่าเอาไปปล่อยตามแหล่งน้ำธรรมชาตินะครับ เต่าญี่ปุ่นจะไปแย่งที่อยู่และแหล่งอาหารของเต่าพื้นเมืองของเรา เต่าญี่ปุ่นกินก็เก่งกินไม่เลือก ขยายพันธุ์ง่าย อัตราการรอดสูงแถมไข่เยอะอีก ผิดกับเต่าไทยของเราไข่ทีน้อยจัง ยังไงก็คิดพิจราณาศึกษาก่อนเลี้ยง วางแผนและเตรียมการจัดการให้ดีๆ เพื่อเต่าแสนรักของเรานะคร๊าบบบ..
ปล.ภาพเต่าบนสุดเจ้าของภาพและเต่าคือคุณซัมเดย์กู้ดแห่งเวปสัตว์เลื้อยคลานแห่งสยาม
ภาพเต่าสองหัวรู้สึกจะเป็นเต่าของร้านเอ็กซ์โซติก สตูดิโอ ของคุณชีตาร์นะครับ เป็นภาพเก่าแล้วครับ
เต่าญี่ปุ่นมีวัยเจริญพันธุ์เมื่ออายุ 2 ปีขึ้นไป เต่าจะเริ่มผสมพันธุ์วางไข่ 2 ช่วง คือ เดือนมีนาคมและมิถุนายน และจะวางไข่ช่วงเดือนมิถุนายนถึงสิงหาคม การผสมพันธุ์จะดำเนินการกันในน้ำนะครับ โดยตัวผู้จะว่ายน้ำตามตัวเมีย และเมื่อตัวเมียพร้อม ตัวเมียจะหยุดและทิ้งตัวลงใต้น้ำ ตัวผู้จะตามไปใช้เล็บยาวๆเกาะที่กระดองตัวเมีย ส่วนเว้าของกระดองตัวผู้ ก็จะประกบกับส่วนโค้งของกระดองตัวเมียพอดี จากนั้นตัวผู้ก็จะ... จว๊าก ไม่ต้องเล่ามากก็ได้ตอนนี้..
จำนวนไข่ของเต่าญี่ปุ่นที่มีการบันทึกเอาไว้ก็ประมาณ 4-23 ฟอง โดยจะวางไข่บนบก แม่เต่าจะขุดหลุมวางไข่บนพื้นดิน ใช้เวลาประมาณ 60-75 วันเพื่อฟักเป็นตัว ใครจะเพาะพันธุ์สถานที่ก็ควรมีทั้งน้ำทั้งบกทั้งพื้นดินนะครับ
เต่าญี่ปุ่นโตมาตัวก็ใหญ่ กินเยอะขี้ก็เยอะ สีก็เปลี่ยนไปไม่สวยน่ารักเหมือนเก่า เหม็นก็เหม็น เลี้ยงไปเลี้ยงมาเมื่อไหร่คิดได้ดังนี้แล้วก็อย่าเอาไปปล่อยตามแหล่งน้ำธรรมชาตินะครับ เต่าญี่ปุ่นจะไปแย่งที่อยู่และแหล่งอาหารของเต่าพื้นเมืองของเรา เต่าญี่ปุ่นกินก็เก่งกินไม่เลือก ขยายพันธุ์ง่าย อัตราการรอดสูงแถมไข่เยอะอีก ผิดกับเต่าไทยของเราไข่ทีน้อยจัง ยังไงก็คิดพิจราณาศึกษาก่อนเลี้ยง วางแผนและเตรียมการจัดการให้ดีๆ เพื่อเต่าแสนรักของเรานะคร๊าบบบ..
ปล.ภาพเต่าบนสุดเจ้าของภาพและเต่าคือคุณซัมเดย์กู้ดแห่งเวปสัตว์เลื้อยคลานแห่งสยาม
ภาพเต่าสองหัวรู้สึกจะเป็นเต่าของร้านเอ็กซ์โซติก สตูดิโอ ของคุณชีตาร์นะครับ เป็นภาพเก่าแล้วครับ
ข้อมูลก็เอามาจากสุดยอดแม็กกาซีนแห่งสยามประเทศ นิตยสารAQUA ครับ
ลงบทความวันที่ 24 ธันวาคม 2550
www.epofclinic.com คลินิกออนไลน์สำหรับสัตว์เลี้ยงชนิดพิเศษ
Red-eared slider
From Wikipedia, the free encyclopedia
Red-eared slider | |
---|---|
Trachemys scripta elegans (Wied-Neuwied). Engraving made in 1865 by Karl Bodmer, who accompanied the authority on his expedition. | |
Conservation status | |
Scientific classification | |
Kingdom: | Animalia |
Phylum: | Chordata |
Class: | Reptilia |
Subclass: | Anapsida |
Order: | Testudines |
Family: | Emydidae |
Genus: | Trachemys |
Species: | T. scripta |
Subspecies: | T. s. elegans |
Trinomial name | |
Trachemys scripta elegans (Wied-Neuwied, 1839) |
The red-eared slider (Trachemys scripta elegans) is a semiaquatic turtle belonging to the family Emydidae. It is a subspecies of pond slider. It is the most popular pet turtle in the United States and also popular in the rest of the world. It is native only to the southern United States, but has become established in other places because of pet releases.
Bonn climate talks end with Kyoto Protocol left hanging
Published: 18 Jun 11 11:46 CET
New talks on global warming ended in Bonn on Friday with the UN's climate chief calling on world leaders to help resolve the fate of the Kyoto Protocol ahead of a key meeting six months down the road.
- Cyber-defence centre opens amid IT warning (16 Jun 11)
- Bonn to Berlin move still controversial (15 Jun 11)
- Westerwelle makes surprise trip to Libya (13 Jun 11)
"By Durban, governments need to come forward with options that will be acceptable to all parties," she told journalists, referring to the UNFCCC's annual gathering, taking place in November 28-December 9 in Durban, South Africa.
Kyoto is the only international agreement with binding targets for curbing
greenhouse gases. But its future is uncertain because China and the United States, the world's No. 1 and No. 2 polluters, are not subject to its constraints.
A first commitment period covering nearly 40 industrialized countries - except for Washington, which refuses to ratify Kyoto - expires at the end of 2012.